วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

โค้ง (Curve)

โค้งวงกลม (Circular curve)


โค้งวงกลม(Circular curve) นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โค้งเดี่ยว (Simple curve) ส่วนที่จะนำไปใช้ในการออกแบบและก่อสร้าถนนคือแนวศูนย์กลาง(Center line) CAQBD ซึ่งการใส่โค้งวงกลมเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรค เช่น สิ่งก่อสร้าง ภูเขา โดยการก่อสร้างจะเป็นไปตามหลักการทางเรขาคณิต เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยของยวดยาน


ส่วนประกอบต่างๆของโค้งวงกลม

ความยาวของเส้นสัมผัส :  T=Tangent
มุมเหหรือมุมสกัด : Δ  = Defflection angle
                           I, IA     = Intersection angle


จุดเริ่มต้นโค้งราบ : BC = Beginning of curve
                         PC = Point of curve
                       HPC = Horizontal point of curve
                         TC = Tangent to curve
จุดสิ้นสุดโค้งราบ EC = End of curve
                        PT = Point of tangent
                      HPT = Horizontal point of tangent
                       CT = Curve to tangent

จุดตัดของเส้นสัมผัสโค้ง PI = Point of (tangent) intersection
                                IP = Intersection point      
                              HIP = Horizontal i Intersection point
คอร์ดหลักหรือคอร์ดยาวที่สุด = Chord
                                        LC = Long chord หรือ Length of chord

ระยะฉากกลางคอร์ด M,MO = Mid-ordinate
                             ML = Middle ordinate length
ระยะกลางโค้งด้านนอกE = External distance

ความยาวโค้ง : L  = Length of curve
                 Lc = Length of circular curve
รัสมี :  R = Radius
ค่าความโค้ง 1/R 


สูตรคำนวณ Circular curve






 



องศาโค้ง  (Degree of Curve =D)
กรณีที่ 1 Arc Definition : R = 5729.57795/D 
           องศาโค้ง คือ จำนวนมุมที่จุศูนย์กลางที่รองรับโค้ง ยาวเท่ากับ 100เมตร เรียก Arc definition ความยาว 100เมตร เป็นความยาวมาตรฐานโค้ง (Standard curve)

กรณีที่ 2 Chord Definition : R = 5729.65067/D
            องศาโค้ง คือ จำนวนมุมที่จุศูนย์กลางที่รองรับคอร์ด ยาวเท่ากับ 100เมตร ความยาว 100เมตรคือความยาวของคอร์คมาตรฐาน


ตารางความสัมพันธ์ V D R องศาโค้งที่ให้ความปลอดภัยที่สุด

มุมหักเห (Deflection Angle)


การหา Deflection Angle 
        จากค่า D จากรูป                D = 4d 

        กำหนดให้มุม d เป็นมุมที่รองรับ arc(a) ยาว 5 เมตร 

                                            d = D/4
           ดังนั้น Deflection Angle = d/2 = D/8

ความสัมพันธ์ระหว่าง Deflection angle, arc, radius and chord


Deflection Angle for Each Station

ระยะ STATION :  PI, PC and PT
             PC STA = PI STA-T
                       PT STA = PC STA+L


__________________________________________________________________________________________________

โค้งผสม (Compound curve)



โค้ง ที่ประกอบด้วยโค้ง วงกลมหลายโค้งมาต่อกัน และจุดศูนย์กลางโค้งทั้งหมดจะอยู่ซีกเดียวกันของเส้น สัมผัส และรัศมีของโค้งที่เชื่อมต่อกันจะยาวไม่เท่ากัน จุดที่ความยาวโค้ง ต่อกัน คือ Point of compound curve (PCC)   ส่วนสำคัญของโค้ง ผสมคือมุมเหของโค้งร่วม (ΣΔi) รัศมีของโค้งร่วม (Ri) เส้น สัมผัสเส้น ยาว/เส้น สั้น (TL/TS) และ Δ ของโค้ง ผสม



ประโยชน์ของโค้ง ผสม

1. ใช้ในนบริเวณที่เป็นภูเขาเพื่อปรับเส้นทางถนน ให้เข้ากับภูมิประเทศและเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร

2. ใช้ในบริเวณทางต่อเชื่อมระหว่างถนนและทางด่วน (Ramp) ที่บริเวณ ทางขึ้นหรือทางลง หรือใช้ในการออกแบบโค้ง ของทางแยกต่างระดับ (Interchange) โดยใช้ร่วมกับโค้งก้นหอย

3. ใช้ในการรออกแบบช่องทางสำหรับเลี้ยวในกรณีที่ถนนสายหลักกับถนนสายรองมาตัดกัน




โค้งผสมชนิด 2 ศูนย์กลาง (Two center compound  curve)

ข้อมูลที่ทราบจากการสำรวจภาคสนาม : Δi ของแต่ละโค้ง ย่อยและค่า R ของแต่ละโค้ง ย่อย




การพิสูจน์สูตรโดยใช้ระบบพิกัดฉาก







__________________________________________________________________________________________________

โค้งกลับทิศทาง (Reversed curve)


  • โค้งผสมที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ตรงข้ามกัน ประกอบด้วยโค้ง สองโค้งมีจุด PRC (Point of reverse curve) เป็นจุดร่วมหรือมีเส้น สัมผัสที่ต่อเชื่อมระหว่างโค้ง เรียกว่า เส้น สัมผัสร่วม (Intermediate tangent)



  • Intermediate tangent จะอยู่ระหว่างโค้ง ทำหน้า ที่แยกโค้ง สองโค้ง ออกจากกัน และควรมีความยาวประมาณ 100 เมตร



โค้งกลับทิศทางต่อกันที่จุด PRC


ประเภทที่ 1 : รัศมียาวไม่เท่ากัน คำนวณเสมือนโค้ง วงกลมสองวงต่อกัน
ประเภทที่ 2 : รัศมียาวเท่ากันคำนวณหารัศมีที่ใช้กับทั้งสองโค้ง ได้ดังนี้



โค้งกลับทิศทางที่มีเส้นสัมผัสขนานกัน

ประเภทที่ 1: รัศมียาวเท่ากัน   


ประเภทที่2:รัศมีไม่เท่ากัน



โค้งกลับทิศทางที่เส้นสัมผัสไม่ขนานกัน แต่รัศมีเท่ากัน

ประเภทที่ 1: AB ได้ จากการวางแนว กําหนดมุม α, β หา Δ1และ Δ2

 








__________________________________________________________________________________________________



Transition Spiral Curve

Transition Spiral Curve หรือโค้งก้นหอย เป็นโค้งราบ นิยมใช้กับถนนหรือทางรถไฟที่ต้องการให้ยวดยานเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ใช้แทนโค้งอันตราย (Sharp curve) ทางเลี้ยว ทางแยกต่างระดับ (Interchange)  ทางแยก (Intersection)  ช่วยให้คนขับสามารถค่อยๆ บังคับรถให้เลี้ยว ได้ง่ายในขณะที่ใช้ความเร็วสูง ทําให้รถไม่เสียหลัก


แนวคิดของTransition curve หรือ Spiral curve ทางเรขาคณิต

  1. แนวคิดลดรัศมี ของโค้งวงกลม(R) ลงเท่ากับ P

  2. แนวคิดเลื่อนโค้งวงกลมลงมาโดยที่ โค้งไม่เปลี่ยนแปลงเลย(Shift circular curve)

  3. แนวคิดให้รัศมีโค้งและองศาโค้งเหมือนเดิม และจุดศูนย์กลางคงที่แต่เลื่อนเสนสัมผัสโค้งวงกลมออกไป (Shift tangent line)




     4.เนื่องจากโค้งวงกลมเดิมเป็นโค้งอันตราย จึงเปลี่ยนเป็นโค้งผสมเพื่อให้สามารถใส่ Spiral curve ได้





















1 ความคิดเห็น:

  1. Harrah's Philadelphia Casino & Racetrack - JTG Hub
    Find out more about the Harrah's 서귀포 출장샵 Philadelphia 성남 출장안마 Casino & Racetrack in Harrisburg. Check out 창원 출장마사지 reviews, 진주 출장안마 photos & 동두천 출장마사지 opening hours, and find out more.

    ตอบลบ